หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 15 - 7 - 2020k f
 Market Wrap-Up
•    SET ปิดวันที่ 14 ก.ค.63 ปิด -1.30 จุด อยู่ที่ 1,341.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,991 ลบ.ต่างชาติซื้อ 229 ลบ. สถาบันขาย 1,827 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 312 ลบ.ยอด NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,583 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น IVL,CPALL,KBANK,CBG,BBL และมียอดขายหุ้น CPF,ADVANC,TQM,MINT,SCC  มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 707 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ KBANK,PTTGC,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 5,645 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 107,288 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 4,088 ลบ.  
•    ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +2.13% , S&P500 +1.34% และ Nasdaq +0.94% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและวัสดุ หลังรัฐบาลเตรียมพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือคนว่างงานจากผลกระทบไวรัสระบาด ขณะที่ JP. Morgan รายงานกำไร Q2/63 สูงกว่าคาดการณ์ และรายงานดัชนี CPI สหรัฐ มิ.ย. +0.60% เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังจากลดลง 3 เดือนในช่วงล็อกดาวน์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.84% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มการเดินทางและสันทนาการปรับลดลง จากการระบาดไวรัส Covid-19
Market View
•    ภาวะการลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากรัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือแรงงานทีว่างงาน ขณะที่ Down Jones Futures เช้านี้ +1% รับข่าว Moderna เผยผลทดลองวัคซีนต้านไวรัส Covid-19 ระยะ 2 ในอาสาสมัคร 45 ราย ทั้งหมดสามารถสร้างแอนติบอดี้ได้ระดับดี และบริษัทเตรียมทดลองระยะ 3 ในอาสาสมัคร 3 หมื่นรายในเดือนนี้ หากประสบผลสำเร็จจะสามารถส่งมอบวัคซีนได้ 500 ล.โดส/ปี ดังนั้นจากข่าวการพัฒนาวัคซีนส่งผลบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ปัจจัยต่างประเทศวันนี้ติดตามการประชุม BOJ และการประชุม JMMC ว่าจะตัดสินใจปรับลดการลดกำลังการผลิตลงสู่ระดับ 7.7 ล.บาร์เรล/วัน จาก ส.ค. – ธ.ค. นี้ ตามข้อตกลงเดิมหรือไม่ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ สถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ จากความกังวลต่อความเสี่ยงการระบาดไวรัสรอบ 2  ขณะที่นายก ฯ ได้สั่งยกเลิกการอนุญาตให้กลุ่มบุคคล VIP เข้าประเทศแบบผ่อนคลายกฏ State Quanrantien รวมถึงสั่งปิดนานฟ้า ดังจากมาตรฐานการควบคุมการระบาดที่เข้มข้นของไทยคาดจะสามารถควบคุมการรระบาดได้ ส่งผลให้ดัชนี SET เริ่มฟื้นตัวในภาคบ่าย วันนี้ติดตาม DTAC รายงานกำไร Q2/63 คาดที่ 1,050 ลบ. -37.5% YoY
Daily Strategy
•    ดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัวรับข่าวบวกการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส วางแนวรับ 1,330 – 1,335 จุด แนวต้าน 1,350 – 1,360 จุด การฟื้นตัวเป็นอย่างจำกัดอยู่ในเฝ้าระวังการระบาด 14 วัน และรอรายกำไร Q2/63 ของกลุ่มธนาคาร ระยะสั้นแนะนำซื้อ PTT, PTTGC, SCC, EA
•    ADVANC (ทยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. บาท) เราประเมินกำไร 2Q63 ที่ 6 พัน ลบ. ชะลอตัวลง -21%YoY, -10%QoQ ซึ่งจะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้อย่างไรก็ตาม รายได้บริการเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนหลังการปลดล็อคดาวน์ ดังนั้นทิศทางของ 2H63 ผลการดำเนินงานมีโอกาสที่จะกลับใกล้เคียงกับภาวะปกติ และเรายังคาดว่าทั้ง ADVANC และ TRUE จะได้ลูกค้าใหม่ที่ย้ายเข้ามาจาก DTAC ด้วย ในช่วง สำหรับประมาณการกำไรปี 63-64 เราประเมินไว้ที่ระดับ 2.7 หมื่น ลบ. และ 3.2 หมื่น ลบ. -12%YoY และ +17.5%YoY ตามลำดับ
•    EA* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 54.00 บาท) คาดกำไรสุทธิปี 63 จะยังเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมานที่เริ่ม COD ใน 1Q62-2Q62 รวม 260 MW เข้ามาเต็มปี ทำให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 664 MW ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยตรง ส่วนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ลดเป้าหมายการส่งมอบรถยนต์ลง เพราะลูกค้าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 แต่คาดว่าเริ่มส่งมอบรถยนต์ได้ในช่วง 4Q63 และโรงงานประกอบคาดจะเริ่มผลิตได้ในปี 64 ส่วนอนาคตน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากการขยายธุรกิจทำรถโดยสารไฟฟ้า (ร่วมกับ NEX) และเรือโดยสารไฟฟ้า อิง Consensus ตลาดคาดกำไรปี 63 ที่ 6.4 พันล้านบาท +5.5%YoY และปี 64 ที่ 7.5 พันล้านบาท +18.6%YoY
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ส.ค.ปิด +$0.19 ดอลลาร์ อยู่ที่ $40.29 /บาร์เรล  Brent Futures ก.ย. ปิด +$0.18 ดอลลาร์ อยู่ที่ $42.90 /บาร์เรล ทรงตัวรอผลกการประชุม JMMC ของกลุ่มโอเปกพลัสในวันนี้ หลังสามารถปรับลดกำลังการผลิตได้สูงกว่าข้อตกลงที่ 107 % ใน มิ.ย. มีการคาดการณ์จะเสนอให้กลุ่มโอเปกพลัสผ่อนคลายข้อตกลงลดกำลังการผลิต ขณะที่อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันมีสัญญาณฟื้นตัว หลังคลายมาตรการล็อกดาวน์
Gold Update (+) Gold Futures ส.ค.ปิด -0.70 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,813.40 ดอลลาร์/ออนซ์  นักลงทุนเข้าซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสในสหรัฐยังเพิ่มสูงขึ้นและปัจจัยเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า Dollar Index  -0.21% อยู่ที่ 96.2635
Fund Flow (-)  Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -4.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ซื้อหุ้นไทย +7.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
 
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 31.49 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -50 จุด  อยู่ที่ 1,742 จุด 
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 0.637 % , 2 ปี อยู่ที่ 0.159 %
(0) ค่าเงินหยวน off-shore  แข็งค่าน้อยอยู่ที่ 7.0005/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 65,594 ราย รวมอยู่ที่ 3,545,077 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 935 ราย รวมอยู่ที่ 139,143 ราย ( Worldometers )
(+) API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 8.32 ล.บาร์เรล
Economic Calendar
ในประเทศ
15 ก.ค.     เปิดลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"  
สัปดาห์ที่3    สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที่4    กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่5    สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
    สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
ต่างประเทศ
14 ก.ค.    US ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
15 ก.ค.    US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
16 ก.ค.    CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 2)
CN ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (ปีต่อปี) (มิ.ย.)
US Core Retail Sales (เดือนต่อเดือน) (มิ.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
EU แถลงการณ์นโยบายการเงินของ ECB
EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ( ก.ค.)
17 ก.ค.    EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มิ.ย.)
    US รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง (มิ.ย.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio July 2020: INTUCH*, JKN*, TVO*, TASCO*, CPF*, BCH*
 
Analysts
Apichai Raomanachai            No. 002939
Nopporn Chaykaew               No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul      No. 081741    

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!