หมวดหมู่: มติ ครม.

Gov 31


การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

          1. การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน (คาซัคสถาน) ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา (Agreement between the Government of the Republic of Kazakhstan and the Government of the Kingdom of Thailand on Visa Exemption for Holders of National Passports) (ความตกลงฯ) และหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ขอให้ กต. สามารถดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมชี้แจงเหตุผลและประยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว

          2. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายปานปรีย์ พหิทธานุกร) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามร่างความตกลงฯ ทั้งนี้ ในกรณีมอบหมายผู้แทนให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าว

          3. ให้ กต. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีผลใช้บังคับของความตกลงฯ

          เรื่องเดิม

          1. คณะรัฐมนตรีมีมติ (13 กันยายน 2566) เห็นชอบในหลักการในการกำหนดให้ “สาธารณรัฐประชาชนจีน” (จีน) และ “สาธารณรัฐคาซัคสถาน” เป็นรายชื่อประเทศในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน โดยมีเงื่อนไขให้มีผลใช้บังคับชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเป็นประโยชน์ต่อมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศกับจีนและคาชัคสถานในภาพรวมโดยเฉพาะความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนสองประเทศที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามที่ กต. เสนอ

          2. คณะรัฐมนตรีมีมติ (20 กุมภาพันธ์ 2567) เห็นชอบในหลักการในการกำหนดให้คาซัคสถานเป็นรายชื่อประเทศ/ดินแดนในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวเป็นกรณีพิเศษ และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน โดยมีเงื่อนไขให้มีผลใช้บังคับชั่วคราวเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 31 สิงหาคม 2567 เพื่อเป็นประโยชน์ต่อมิติเศรษฐกิจและการต่างประเทศกับคาซัคสถานในภาพรวม โดยเฉพาะด้านความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนสองฝ่ายที่เป็นรากฐานของความสัมพันธ์จนกว่าการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาระหว่างราชอาณาจักรไทยและคาซัคถานเป็นการถาวรจะแล้วเสร็จตามที่ กต. เสนอ

          สาระสำคัญของเรื่อง

          1. รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถานมีกำหนดจะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 21 - 24 เมษายน 2567 โดยไทยและคาซัคสถานได้เห็นชอบที่จะจัดให้มีการลงนามความตกลงฯ ในวันที่ 23 เมษายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของทั้งสองฝ่าย

          2. กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ขอเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาชัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา (ความตกลงฯ) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะจัดให้มีการลงนามความตกลงฯ ในวันที่ 23 เมษายน 2567 โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการยกเว้นการตรวจลงตราแก่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของแต่ละฝ่ายในการเดินทางเข้า - ออก เดินทางผ่าน และพำนักอยู่ในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่งโดยได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน นับจากวันเดินทางเข้า โดยระยะเวลาพำนักสะสมรวมกันจะต้องไม่เกิน 90 วัน ภายในแต่ละช่วงเวลา 180 วัน โดยหากพลเมืองของทั้งสองประเทศมีความประสงค์ที่จะพำนักในดินแดนของรัฐภาคีอีกฝ่ายหนึ่งเกินกว่า 30 วัน บุคคลเหล่านั้นจะต้องขอรับการตรวจลงตราตามประเภทที่สอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐภาคีนั้นๆ ทั้งนี้ กต. แจ้งว่า ในการประชุมเพื่อพิจารณาการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ที่ประชุมได้เห็นชอบตามข้อเสนอของ กต. ให้พิจารณาให้สิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา 30 วัน (ผ.30) แก่ฝ่ายคาซัคสถานตามหลักต่างตอบแทนหรือจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน รวมทั้ง กต. ได้สอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กก. มท. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ สตม. เกี่ยวกับการจัดทำความตกลงฯ แล้ว ทุกหน่วยงานไม่มีข้อขัดข้องต่อการจัดทำความตกลงฯ รวมทั้งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรี) 18 เมษายน 2567

 

 

4543

Click Donate Support Web 

AXA 720 x100

Banner GPF720x100 PX

MTL 720x100

kbank 720x100 66

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

QIC 720x100

gen 720x100

CKPower 720x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!