หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
FSS
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยปิดลบเล็กน้อย 2.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางเพียง 3.6 หมื่นลบ. โดยตลาดรอจับตาผลการประชุม FED ว่าจะส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้นตามที่คาดหรือไม่ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.4 พันลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิในมูลค่าใกล้เคียงกัน
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องแม้ FED จะส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ แต่มีการปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP ลงสะท้อนให้เห็นมุมมองเศรษฐกิจที่ถูกกระทบจาก Trade War ขณะที่ประเด็น Brexit ยังต้องรอความชัดเจนในสัปดาห์หน้าทั้งการลงมติรอบ 3 รวมถึง EU ว่าจะเห็นชอบขยายเส้นตายออกไปหรือไม่ เรายังมองกลุ่ม Domestic Play ยังหน้าสนใจจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่ภายหลังการเลือกตั้ง
          กลยุทธ์ : สะสมหุ้น Domestic Play//ส่วนที่สะสมไปแล้วยังเน้นถือต่อเนื่อง
          หุ้นเด่นเดือน มี.ค : EA, ERW, PLANB, RS, TVO
 
หุ้นเด่นวันนี้: CPN 
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 93 บาท (DCF)
          - เป็นหนึ่งในหุ้น domestic play ที่มั่นคงเพราะรายได้หลักเป็นค่าเช่า
          - คาดกำไรปี 2019-20 โตเฉลี่ย 11% เป็น 1.20 หมื่นลบ. และ 1.33 หมื่นลบ. ตามลำดับ จากการขึ้นค่าเช่า เปิดศูนย์ใหม่ 2 ห้าง และมีรายได้คอนโด 
          - ระยะยาวมี synergy จากการใช้ที่ดินของ GLAND และร่วมลงทุนกับ DTC  
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$13ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$161ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$105ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$45ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังการประชุม FOMC เมื่อคืนนี้คงอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (-) เฟดคงดอกเบี้ยและปรับลด GDP เฟดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25-2.5% ส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ (จากเดิมขึ้น 2 ครั้ง) และจะยุติการปรับลดงบดุลในเดือน ก.ย. นี้ พร้อมปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 2.1% จากเดิม 2.3% ส่วนปีหน้าเหลือ 1.9% จากเดิม 2.0% ค่าเงินดอลลาร์อ่อน หุ้นกลุ่มแบงก์ในสหรัฐปรับลง 
          (+) กนง.มีมติให้คงอัตราดอกเบี้นโยบายที่ 1.75% เพราะมองว่าภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ มติที่เป็นเอกฉันท์ เงินเฟ้อต่ำและความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก เราจึงคาด กนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายตลอดทั้งปี เป็นบวกกับกลุ่มไฟแนนซ์ที่ต้นทุนทางการเงินไม่เพิ่ม ส่วนกลุ่มแบงก์ไม่เป็นลบ เพราะน้ำหนักการเติบโตอยู่ที่การขยายตัวของสินเชื่อ (มีฤดูกาลที่ดีใน 2H) และการลดสำรองฯ มากกว่าการขึ้นดอกเบี้ย  
          (-) กนง.ปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้จากเดิมโต 4.0% เหลือโต 3.8% โดยปรับลดการขยายตัวของการส่งออกจากเดิมที่โต 3.8% เหลือโต 3.0% และคาดว่า GDP ปี 2020 จะเติบโต 3.9% แม้จะปรับประมาณการลง แต่โมเมนตัมการเติบโตในประเทศยังดี ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยว 
          (-) เลี่ยงกลุ่มส่งออก กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์และยานยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกเป็นอย่างน้อย ไม่น่าสนใจเพราะผลของสงครามการค้าและบาทแข็ง ส่วนกลุ่มเกษตรและอาหารที่ส่งออก น้ำตาลและยางยังไม่ฟื้น ขณะที่บาทแข็งเป็นบวกกับผู้นำเข้าถั่วเหลือง (TVO) ราคาหมูปรับสูงขึ้น (ดีต่อ CPF) กลุ่มที่น่าสนใจคือ ค้าปลีก การแพทย์ โรงแรม โรงกลั่น ไฟแนนซ์  
          (0) จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ก.พ. +0.2% Y-Y เป็น 3.572 ล้านคน ชะลอจาก ม.ค. ที่ +4.9% Y-Y เพราะฐานสูงในปีก่อน (ก.พ. 18 +19.3% Y-Y เป็น 3.567 ล้านคน) นักท่องเที่ยวจีนพลิกมาหดตัว -12.3% Y-Y จาก +10.3% Y-Y ในเดือน ม.ค. แต่เชื่อเป็นเพราะช่วงตรุษจีนที่เหลื่อมวัน อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจีนรวม 2M19 -2.2% Y-Y ดีขึ้นจาก 4Q18 ที่ -10% Y-Y เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้โดยเฉพาะในช่วง 2H19 และคาดจบปีที่ 41.1 ล้านคน +7.5% Y-Y ยังคงน้ำหนักการลงทุน Overweight โดย Top Pick ยังเป็น ERW (ราคาเป้าหมาย 8 บาท) และ MINT (ราคาเป้าหมาย 48 บาท)
          Contact person : Jitra  Amornthum  Register : 014530
          Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!