หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
KGI
รู้ทันหุ้น : บล.เคจีไอ
 
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
 
ปรับขึ้นต่อ 
 
KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ บวกต่อ และยังคงผันผวน... หลังเมื่อวานดัชนีฯ รีบาวด์แรงกว่าที่เราประเมิน เพราะตัวเลขส่งออกไทย ก.ค. พลิกมาเป็นบวก YoY และดีกว่าที่เราและ consensus คาดค่อนข้างมาก ช่วยลดความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2562 (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทย วันนี้) ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิเล็กน้อย... ด้านปัจจัยต่างประเทศเมื่อคืนนี้เป็นบวกเช่นกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แรลลี่ต่อ รับผลประกอบการ บ.ค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น Lowe และ Target ที่ดีกว่า consensus คาด ผนวกกับรายงานการประชุมเฟด (US Fed meeting minutes) ที่แม้ว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้แต่ก็ได้เปิดช่องให้เฟดสามารถออกมาตรการ QE ได้อีกครั้งหากจำเป็น ภาพรวมของปัจจัยจึงยังคงเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง (เช่นตลาดหุ้น) ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าแม้การฟื้นตัวในช่วงสั้นของ SET Index ดูแข็งกว่าที่เคยคาด แต่อัพไซด์เริ่มมีจำกัด... อิงเป้าหมายดัชนีฯ สิ้นปี 2562 ที่เรามองไว้ที่ 1,680 จุด เราประเมินดัชนีฯ น่าจะเริ่มชะลอการปรับขึ้นหากทดสอบระดับ 1,650 จุด ท่ามกลางความไม่แน่นอนของปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังดำรงอยู่
 
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
 
เก็งกำไร GLOBAL*, BCPG*, WHAUP* 
 
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 19.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 15.7 - 16.0 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 16.5 บาท (Stop loss 14.9 บาท) 2) เราประเมินนโยบายกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะนโยบายประกันราคาสินค้าเกษตร และการพักหนี้เกษตรกรจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น GLOBAL* 3) ราคาหุ้นปรับตัวลง รับรู้ผลการดำเนินงาน 2Q62 ที่อ่อนแอไปพอสมควรแล้ว PE ปี 2562 - 63 เท่ากับ 30 เท่า และ 25 เท่า ตามลำดับ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตที่ 35 เท่า
BCPG* (เป้า Consensus 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.2 บาท / แนวต้าน 19.1 - 19.5 บาท (Stop loss 17.8 บาท) 2) แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำคาดทำให้หุ้นที่มีโครงสร้างกระแสเงินสดคล้ายพันธบัตรอย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า Outperform ตลาดฯ + โอกาสในการ Re-finance ลดต้นทุนดอกเบี้ย ซึ่ง BCPG* มี Valuation ที่ไม่แพง เทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มโดยมี PE ปี 2562 - 63 เท่ากับ ±18.5 เท่าและ ±16 เท่า ตามลำดับ และปันผล ±3.5% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5% ต่อปี 
WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.5 บาท / แนวต้าน 6.75 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.0 บาท (Stop loss 6.15 บาท) 2) ประเมินหุ้นเป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการ EEC ที่ยังมี Upside (หุ้นกลุ่มนิคมฯ Upside เริ่มจำกัด) 3) ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯและราคาเป้าหมายขึ้น ในบทวิเคราะห์วันนี้จากการเข้าลงทุนซื้อหุ้นธุรกิจน้ำประปาที่เวียดนาม (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์วันนี้) 4) คาดปันผลเฉลี่ย +3.8% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5% ต่อปี
 
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
 
หุ้นเด่น JMT (Trailing stop ล๊อกกำไรถ้าต่ำกว่า 17.6 บาท)
กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ (Beta) แนะนำ "ปิดสถานะ" ล๊อกกำไร กลยุทธ์ Long QH* + Short LH* (กำไรรวม +3.1% ตั้งแต่แนะนำกลยุทธ์)
 
หุ้นมีข่าว
 
(-) BFIT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SAWAD* ถูกธปท.ปรับเป็นเงิน 1.6 ล้านบาท ในคิดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมกับลูกค้าตามเกณฑ์ (market conduct) ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  (-) ความเห็น: เรามองว่าที่ธปท.ปรับ BFIT ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามากำกับการดำเนินงานของ BFIT และ SAWAD แบบใกล้ชิดมากขึ้น และใช้เกณฑ์เรื่องการคิดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ให้เป็นเพดานตามใบอนุญาต และทำให้การดำเนินงานของ SAWAD และ BFIT ที่มีการรายโอนระหว่างกันมีความเสี่ยงมากขึ้น และทำให้การคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต้องกลับมาพิจารณาใหม่ ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รวมของ SAWAD อยู่ที่ 25-27% เทียบกับ MTC ประมาณ 23% ซึ่งหาก SAWAD ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงทุก 1% จะทำให้กำไรของบริษัทลดลง 6.5%
 
(+/-) กมธ. ศึกษาเรื่องการยืดอายุสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าเปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นด้วยในการขยายอายุสัญญาสัมปทานมางด่วน ส่วนการขยายอายุสัมปทานรถไฟฟ้ามีแนวโน้มไม่เห็นด้วย แต่การลงมติยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ในวันนี้ (มติชน) เรามองว่า ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อ BEM* ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่เชื่อว่าการยืดอายุสัมปทานจะเกิดขึ้น (ระยะเวลา 20-30 ปี) หากพิจารณาจากสิทธิ์ลำดับแรกตามสัญญาปัจจุบันของ BEM และการชดเชยความเสียหายจากคดีความที่มีกับ กทพ. ส่วนกรณีของ BTS* เรามองว่า ข่าวดังกล่าวอาจส่งผลลบในเชิงจิตวิทยาการลงทุน แต่ในเชิงปัจจัยพื้นฐานไม่มีผลกระทบ เนื่องจากถ้าผลสรุปออกมาในรูปแบบนี้ ก็แสดงว่า BTS จะยังคงดำเนินธุรกิจตามสัญญาสัมปทานต่อเนื่องในอนาคต โดยไม่มีการพิจารณาปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายตามที่รัฐบาลต้องการ (ไม่เกิน 65 บาท) อย่างไรก็ตาม ผลการพิจารณาของ กมธ. ยังไม่ใช่ข้อสรุปและมีผลบังคับใช้แต่อย่างใด เรื่องดังกล่าวยังต้องผ่านเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ต่อไป เรายังคงแนะนำซื้อทั้ง BEM และ BTS โดยมีราคาเป้าหมาย 11.10 และ 14.00 บาท ตามลำดับ
 
PSUM> สรุปข่าวเศรษฐกิจ การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 22 ส.ค. 2562
 
(0) 'กสิกร' เฉือนดอกเบี้ยฝาก ปรับลง 0.05-0.2% เน้นออมทรัพย์พิเศษรายใหญ่ "กสิกร" หั่นดอกเบี้ย เงินฝากลง 0.05-0.2% ใน 7 ผลิตภัณฑ์ เผยส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษสำหรับนิติบุคคล (กรุงเทพธุรกิจ)
 
(- CK*, ITD*) ซีพีพ่ายซ้ำ! ศาลยกคำร้อง วืดประมูลพัฒนาอู่ตะเภา (ไทยโพสต์) ซีพีพ่ายซ้ำ ศาลปกครองยกคำร้องกลุ่มซีพีขอความเป็นธรรมยื่นข้อเสนออู่ตะเภาเกินเวลา วืดชิงเมืองการบิน 2.9 แสนล้าน ข้ออ้างส่งมอบเอกสารล่าช้า เนื่องจากการจราจรติดขัดฟังไม่ขึ้น จะยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเอกชนรายใดรายหนึ่ง และทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
 
(+ กลุ่มค้าปลีก) ทุ่ม 2.1 หมื่นล.ประกันราคาข้าว (ไทยโพสต์) "บิ๊กตู่" หัวโต๊ะถก "นบข." นัดแรก ไฟเขียว 2.1 หมื่นล้านประกันรายได้ข้าว 5 ชนิด พร้อมค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 500 บาท ช่วยชาวนา 3.9 ล้านครัวเรือน ชงครม.เคาะสัปดาห์หน้า
 
(+) BCPG* ขายไฟเข้าเป้าอีบิทดาพุ่ง เล็งซื้อพลังงานใน-นอกเสริมทัพ (ทันหุ้น) BCPG* ขายไฟเข้าเป้า EBITDA ครึ่งปีหลังโต 15% เร่งสร้างโรงไฟฟ้าญี่ปุ่น กำลังผลิต 116 เมกะวัตต์ คาด COD ปี 63-65 เดินหน้าประมูลโซลาร์ 500 เมกะวัตต์ พร้อมดีลซื้อพลังงานในประเทศ-ต่างประเทศเสริมแกร่ง แจกปันผล 0.16 บาท
 
(+) SSP สยายปีกลงทุนต่างแดนสิ้นปีปิดดีลเวียดนาม 50 MW (ทันหุ้น) SSP ฟุ้งอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-ลม ในเวียดนาม มาเลเซีย และญี่ปุ่น ขนาดกำลังผลิตเฉลี่ย 50 MW ต่อโครงการ คาดว่าในช่วงปลายปีได้ข้อสรุป 1 โครงการ แนวโน้มไตรมาส 3/2562 โดดเด่นกว่าปีก่อนหลังเริ่ม COD โครงการมองโกเลียเต็มสูบ มั่นใจกำลังการผลิตสิ้นปี 2562 เข้าเป้า 157 MW
 
(+) RATCH* ซื้อของดีราคาถูก ฮุบไฟฟ้านวนคร 110 MW (ข่าวหุ้น) RATCH* ซื้อของดีราคาถูก ทุ่มงบ 1,998 ล้านบาท ซื้อหุ้น “NNE” 99.97% ฮุบโรงไฟฟ้านวนครการไฟฟ้า กำลังผลิต 110 MW มูลค่ากิจการสูงกว่า 5,727 ล้านบาท คาดดำเนินการแล้วเสร็จไตรมาส 3/62 หวังผลักดันการเติบโตตามเป้าหมาย
 
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
 
TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) ประเมินแนวรับ 50 บาท / แนวต้าน 54 บาท (Stop loss 50 บาท)
SAMTEL (เป้าพื้นฐาน 14.3 บาท) ประเมินแนวรับ 9.5 บาท / แนวต้าน 10.4 บาท (Stop loss 9.5 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 8.75 บาท / แนวต้าน 9.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailign stop 8.6 บาท)
TFG (เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท) ประเมินแนวรับ 4.8 บาท และ 4.76 บาท / แนวต้าน 5.0 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 5.2 บาท (Trailing stop 4.46 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
 
M แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 78 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นลบเล็กน้อย ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2562 - 64 ลง -4.2%, -5.1%, และ -5.1% ตามลำดับ จากการปรับลดสมมติฐานรายได้ ขณะที่แนวโน้ม 2H62 มีความเสี่ยงที่การบริโภคในประเทศจะชะลอตัวและกระทบต่ออัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อย่างไรก็ดียังคงแนะนำ "ถือ" จากปันผลที่ยังน่าสนใจ +3.6%
WHAUP* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก โดยฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการฯ จากการเข้าลงทุนซื้อหุ้นธุรกิจน้ำประปาเวียดนาม และคาดปันผลเฉลี่ย +3.8% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5%
 
Strategic SET daily 
 
Market strategy Thailand
 
จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- ค่าเฉลี่ยเก้าวันที่นัยต้าน 1639 จุด
 
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดหนือค่าเฉลี่ยเก้าวันที่ต้าน 1639 จุดนั้น เชิงกราฟ ถือว่าสิ้นสุดแรงกดทางลงและเข้าสู่แรงผลักทางขึ้นที่ต่อเนื่อง แต่หาก ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1639 จุด อาจทรงราคาลง
 
แนวรับวันนี้:          1633/1626                                           แนวต้านวันนี้:          1639/1656
 
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
 
1 อดิศักดิ์ คำมูล
 
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
 
3 This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
 
 
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!