หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
BLS
บล. บัวหลวง: บทวิเคราะห์รายละเอียดวัน
 
รอบด้านตลาดหุ้น 
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม
 
สรุปตลาดและ Outlook    
          เมื่อวาน SET ลงมาตามแนวรับ: เมื่อวานนี้ถอนตัวจากการขายหุ้นหลายตัวที่ตลาดเกิดใหม่จาก MSCI Rebalance เช่น INTUCH PTT BANPU และส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ดีที่สุดในตลาด AOT WHA AMATA BCPG GULF และหุ้น บวกแรงเกิน 5% EPG BGC TASCO TIPCO TCAP WHAUP
          วันนี้คาดว่าดัชนีฯ : ขอบเขตในกรอบ 1610-1630 จุดโดยกลุ่มลบตลาดที่คาดว่าจะมาจากหุ้นที่คาดการณ์ไว้ (คาดการณ์ความเสี่ยงขาลง) มีความรวดเร็ว MS ลดการคาดการณ์ เหลือเพียง $ 60 จาก $ 65 ต่อเนื่อง           
          ส่วนหุ้น / กลุ่มเด่นคาดอาหาร (ดูรายงานกลุ่ม "ไก่" วันนี้) ตลอดจนหุ้นการป้องกันอื่น ๆ และหุ้นที่มี Catalyst   
 
สิ่งที่น่าจับตามอง   
          (+) MS คาดว่าจีนจะประกาศมาตรการผ่อนคลายเศรษฐกิจ: หลังจากธนาคารกลางจีนเพิ่งประกาศปฏิรูปอัตราดอกเบี้ยในประเทศไปเมื่อ 17 สค. โดยให้ใช้ LPR (Loan Prime Rate) เป็นแหล่งอ้างอิงอ้างอิงทุก ๆ วันที่ 20 ของทุกเดือนคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและได้รับเศรษฐกิจโดย MS คาดการณ์ว่าจีนจะเพิ่มการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจ ลงเร็ว ๆ นี้   
          (-) MS ปรับลดคาดการณ์น้ำมันดิบลงอีก : โดยคาดราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์ ใน 3 ไตรมาสข้างหน้า ที่ US$60/bbl ปรับลงจาก $65/bbl เราคาดกลุ่มหุ้นที่เชื่อมโยง ราคาน้ำมันดิบ (PTT PTTEP TOP IRPC SPRC ESSO PTTGC IVL BANPU) มีความเสี่ยงด้านล่างของประมาณการณ์กำไร เพราะสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบที่เรา ใช้ยังสูงกว่าที่ MS คาด โดย เราใช้สมมุติฐานปี 2019-20 ที่ $67-$68 /bbl
          (*) การเมืองในประเทศ : 1) ศาล รธน.นัดวินิจฉัย คำร้อง คุณสมบัติ นายก กรณีคำร้องวินิจฉัย ประเด็น เจ้าหน้าที่รัฐฯเป็นแคนดิเดท นายกฯ วันที่ 18 กย. นี้ เวลา บ่าย 2 โมง 2) มติผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาล รธน.ให้ ชี้ขาด ปมถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ   
 
หุ้นแนะนำวันนี้  
          GFPT TFG ดูรายงานวันนี้  
          STA NER เก็ง สัปดาห์หน้า มาตรการประกันราคายาง เข้า ครม.  
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน   
 
รายงานวันนี้
 
กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโครงการใหม่และต้นทุนการเงินที่ต่ำลง เป็นบวกทั้งคู่      
          สถานะที่อ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและอัตราดอกเบี้ยขาลงพร้อมกันส่งผลให้หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานมีความน่าสนใจ เพราะมีความผันผวนจากเศรษฐกิจต่ำ และมีโอกาสในการปรับกำไรขึ้นจากต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำลง นอกจากนี้หสำหรับหุ้น BTS และ BEM ยังมีอัพไซด์จากโครงการใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีส้ม และม่วง ซึ่งเรามองว่าโครงการใหม่มีมากจนกระทั้งผู้ประกอบการรายเดียวรับไปไม่ไหว เราแนะนำ ซื้อ ทั้ง BTS และ BEM 
 
กลุ่มเกษตรและอาหาร ราคาไก่ในจีนยังพุ่งไม่หยุด   
          ราคาหมู รวมถึงราคาสินค้าทดแทนอย่างไก่ในประเทศจีนยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบของ ASF ที่ทำให้อุปทานของหมูลดลงไป โดยราคาหมูล่าสุดในเดือนนี้ปรับตัวขึ้น 66% YoY ในขณะที่ราคาไก่สูงกว่าปีที่แล้ว 22% YoY เราคาดจะเห็นอุปสงค์ของเนื้อไก่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากราคาหมูที่ปรับตัวขึ้นไปในระดับค่อนข้างแพงกว่าไก่มาก เรามองว่าผู้ประกอบการในไทยทั้ง CPF, TFG และ GFPT จะได้รับอานิสงส์ในการส่งออกไก่ไปมากขึ้น รวมถึงราคาส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น ราคาหุ้นควรที่จะเทรดในระดับ Premium จากค่าเฉลี่ยระยะยาว โดยถ้าเทียบระดับ Valuation ตอนนี้ถือว่า TFG น่าสนใจที่สุด (เทรดที่ -0.4SD เทียบกับ +0.2SD สำหรับ CPF และ +1SD สำหรับ GFPT) หากอิงสมมติฐานที่ +1SD จะได้ราคาเป้าหมายแต่ละตัวดังนี้ 39.7 บาทสำหรับ CPF และ 10.3 บาทสำหรับ TFG        
 
PRM Visit Note 
          ธุรกิจ domestic oil tanker มาร์จิ้นคาดดีขึ้น หลังจากที่ 2Q อ่อนตัวลงเล็กน้อย เพราะเรือที่รับเข้ามาใหม่ วิ่งในเส้นทางทดลอง ซึ่งตอนนี้เข้าสู่เส้นทางปกติแล้ว ธุรกิจ Floating storage (FSU) จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นจาก 1) การรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของเรือใหม่ที่ 2Q รับรู้เพียง 2 เดือน 2) เรือใหม่ อีก 2 ลำ ขนาดลำละ 3 แสนตัน เริ่มมีรายได้แล้วในเดือน ก.ค. และ ส.ค. ตามลำดับ แนวโน้มธุรกิจ FSU จะสดใสไปถึงปีหน้า จากมาตรการ IMO2020 ซึ่งจะหนุนให้เกิดการกักเก็บน้ำมัน low           
          เรามองว่าบริษัทมีแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง ตลอดจนถึงปีหน้า ซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากมาตรการ IMO2020 ซึ่งกำไรที่แข็งแกร่ง คาดจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อไป แนะนำ เก็งกำไร พิจารณาตามปัจจัยทางเทคนิค รับ 8.2 ต้าน 8.9 stop loss 8.0 
 
หุ้นมีข่าว
 
POLITIC  
          * ศาล รธน.นัดวินิจฉัย คำร้อง คุณสมบัติ นายก กรณีคำร้องวินิจฉัย ประเด็น เจ้าหน้าที่รัฐฯเป็นแคนดิเดท นายกฯ วันที่ 18 กย. นี้ เวลา บ่าย 2 โมง (ที่มา ASPEN)  
 
CPN  
          */+ นายกฯ สั่ง คมนาคม-มท.เร่งตรวจสอบ"เซ็นทรัล วิลเลจ"ยันให้ความเป็นธรรมหากเอกชนทำถูกก็ต้องให้เดินหน้า   
          นายก ได้สั่งการในที่ประชุม ครม. ให้ทางกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village) ใกล้พื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ  โดยยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะไม่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใด 
          ขณะที่วันพรุ่งนี้ผู้บริหารระดับสูง บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)  ในฐานะเจ้าของโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกของไทยจะมีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 31 ส.ค. 62 นี้ หลังจากมีรายงานข่าวว่าบริษัทยื่นคำขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งใช้มาตรการคุ้มครองฉุกเฉินโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) นำสิ่งกีดขวางบริเวณทางเข้า-ออกหน้าโครงการ (ที่มา อินโฟเควสท์)  
 
SRICHA 
          + แจ้งตลาด ได้งานใหม่ 2 โครงการ รวมมูลค่า 798.5 ลบ. หนุน Backlog เพิ่มเป็นกว่า 1 พันลบ.  
          บริษัทฯ ได้รับการจ้างงาน จำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่า 798.5 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.บริษัท CTCI (Thailand) Ltd. ทำงานภายใต้ Project A/G Piping Installation มีมูลค่างานเริ่มต้นรวมที่ประมาณ 205 ล้านบาท มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่ ส.ค.62-ก.ย.63 โดยบริษัทฯจะเริ่งดำเนินงานตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป 
          2.บริษัท JGC Corporation (Bangkok Operation Center) ให้ทำงานภายใต้  Project Harmony มูลค่างานเริ่มต้นรวมที่ประมาณ 593.5 ล้านบาท มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่ ช่วงพ.ย.62-ก.พ.65 โดยบริษัทฯจะเริ่งดำเนินงานตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป  
          นายกฤษฎา โพธิสมภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ ของ SRICHA กล่าวว่า สำหรับงานภายใต้โครงการ A/G Piping Installation มีบมจ.ไทยออยล์ (TOP) เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของบริษัท ส่วนงานภายใต้ Project Harmony เป็นงานของ JGC Corporation ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรธุรกิจหลัก 
          การที่บริษัทได้รับงานทั้ง 2 โครงการดังกล่าวทำให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1,000 ล้านบาท (ที่มา ตลท. อินโฟเควสท์)  
 
GGC PTG  
          + รมว. พลังงาน เผยมาตรการด้านพลังงานดันราคาน้ำมันปาล์มพุ่งทะลุ 3 บาท/กก.พร้อมหนุนใช้ B10-B20 ต่อเนื่อง 
          และ เมื่อวาน ครม.อนุมัติงบ 13,378 ลบ.ประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม 3 แสนรายที่ขึ้นทะเบียน เริ่ม ส.ค.62-ก.ย.63 (ที่มา อินโฟเควสท์)  
 
BEM  
          0/* รอเก้อ! "ศักดิ์สยาม" ยังไม่ตัดสินใจเลือก 1 ใน 3 ทางเลือกยุติข้อพิพาททางด่วน หลัง "คณะทำงานฯปลัดคมนาคม" เสนอ 3 ทางเลือกแก้ปัญหา ทางเลือกแรกต่อสัมปทาน 30 ปีตามที่กทพ.เจรจากับ BEM ขณะที่ทางเลือกที่ 2 ต่อสัมปทาน 15 ปี โดยไม่ทำ double deck ส่วนทางเลือกที่ 3 ไม่ต่อสัญญาแต่สู้คดีถึงที่สุด (ที่มา ข่าวหุ้น) 
 
STA NER GGC PTG 
          + ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 มีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าว และประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562/2563 ตามที่รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เสนอวงเงินงบประมาณรวม 34,873 ล้านบาท 
          งบสำหรับ ราคายาง 26000 ลบ. คาด เข้า ครม.สัปดาห์หน้า 
          งบเพาะปลูกข้าวไร่ละ 500 บ. 25842 ลบ. 
          ประกันราคาปาล์ม 4 บ./ กก. 13378 ลบ. 
          ประกันราคาข้าว 1-1.5 หมื่นบ./ตัน ใช้งบ 21495 ลบ.  
          (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ)  
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1,615.47 (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 6.9 หมื่นล้านบาท   
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,625 / SET100 รับ 2,345 ต้าน 2,365 BSET100 รับ 10.35 ต้าน 10.45 / BMSCITH รับ 11.70 ต้าน 11.80 
 
Topic: SET Index holding above critical major support line.
 
กลยุทธ์เทคนิค:  
          SET Index แรงเช้าแผ่วปลาย หุ้นผู้นำตลาดกลุ่มสื่อสารและไฟฟ้าเริ่มถูกขาย กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ราคาถูกกดลงทำ new low ในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตามแรงซื้อสลับเข้ามาในหุ้นที่ลงต่ำมากๆ เช่น IVL  SCC ขณะที่หุ้นบวกแรง TCAP,TASCO, EPG หุ้นมีข่าวบวกหนุนเป็นรายตัว แนวโน้มตลาดยังน่าจะเห็นเม็ดเงินย้ายเข้าสู่กลุ่มปลอดภัย กลุ่มเชื่อมโยงกับการอุปโภคในประเทศ สวนทางกับกลุ่มสายพลังงาน ปิโตรเคมีและกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก มองจุดรับ 1600 จุดสู้ได้และแนวต้าน 1630 จุด
 
มุมมองทางเทคนิค:  
          เส้น Trend line ใช้หาตำแหน่งแนวรับ-ต้าน ในขณะเดียวกันยังแสดงถึงจุดเปลี่ยนโครงสร้างได้อย่างแม่นยำ ล่าสุดดัชนี SET Index กำลังทดสอบและสู้บริเวณแนวรับสำคัญมากๆ 1600 จุดซึ่งเป็นรูปแบบขาขึ้นมายาวนาน 10 ปี นอกจากนี้กราฟราคาน้ำมันและทองคำ (หน้า2) ทดสอบแนวรับและต้านสำคัญเช่นเดียวกัน จับตาหากดัชนีทะลุขึ้นหรือลง อาจเป็นจุดเปลี่ยนโครงสร้างหลักที่สะสมมาอย่างยาวนาน  
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          กลยุทธ์เลือกหุ้นเน้นกลุ่มเชื่อมโยงในประเทศ แสดงค่าความแข็งแกร่ง Relative strength ได้ดีกว่าตลาด ใช้สัญญาณทางเทคนิคเข้าช่วยจับจังหวะการซื้อขาย 
          *Bullish signal(หุ้นสัญญาณซื้อ): AOT,RS 
          *Bear Signal (หุ้นสัญญาณขาย): TOP, CPN, KTB 
 
โมเดลพอร์ตทางเทคนิค:
          สรุปผลตอบแทนการลงทุน Year to date +14.4% สูงกว่าตลาดที่ + 3.7%  
          *Addition(หุ้นเพิ่ม): AOT 
          *Deletion(หุ้นออก): KBANK 
          หุ้นคงเหลือ: TFG, CHG,CPF, RS, GULF, BGRIM,FN,STEC,CK,TRUE,GPSC,ROJNA, SAMTEL
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค                 
          This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. +662-618-
 
 
Track with Technical 
 
          AOT (AOT01C1911B) 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 69.50 
          ต้าน 74.00 
          เหตุผลทำฐานยกสูงขึ้นสูงต่ำ MACD อ่อนตัวขึ้นมาเหนือเส้นศูนย์เส้นบ่งชี้โครงสร้างขาขึ้นระยะกลาง 
 
          อาร์เอส 
          แนะนำซื้อ 
          รับ 16.70 
          ต่อต้าน 18.50 / 20.00 
          เหตุผลที่ราคาปิดบวกได้อย่างแน่นอนร้านหนังสือยืนยันกลับตัวทะลุเกราะสำคัญ 17 บ. นอกจากนี้โครงสร้างกลางเพิ่งขึ้นจากแนวรับสำคัญ 15 บ. 
 
          อ่าว BGRIM, GPSC 
          แนะนำให้กำไรวิ่ง 138.00-140.00 
          รับ 37.00 72.00 145.00-150.00  
          ต่อต้าน 40.00-42.00 76.00-78.00 
          เหตุผลหุ้นโรงไฟฟ้าในประเทศขึ้นแรงทุกตัว GULF, BGRIM GPSC แนะถือต่อ  
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!