หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
KGI
รู้ทันหุ้น : บล.เคจีไอ
 
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
 
แกว่งแคบๆ หลังฟื้นตัวแรงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว 
 
KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ไซด์เวย์... ตลาดน่าจะชะลอความร้อนแรงหลังดัชนีฯ ฟื้นตัวต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกันเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และอัพไซด์ไปถึงเป้าหมายดัชนีฯ สิ้นปีนี้ที่ 1,680 เหลือไม่มากนัก... กอปรกับปัจจัยเศรษฐกิจโลกพลิกเป็นลบเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก i) ราคาน้ำมันดิบปรับลงเกือบ 3% เมื่อคืนวันศุกร์ และ ii) เมื่อวันเสาร์ ทางการจีนรายงานดัชนี NBS PMI ภาคการผลิตเดือน ส.ค. ลดลงสู่ 49.5 จุด ซึ่งต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์ น่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียและหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบจำกัดเพื่อรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเพิ่มเติม... ด้านประเด็นสงครามการค้านั้น เมื่อวานนี้สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษี 15% กับสินค้าของจีนมูลค่าประมาณ 1.1 แสนล้านเหรียญฯ ขณะที่สินค้ามูลค่าอีกเกือบ 2 แสนล้านเหรียญฯ นั้น สหรัฐฯ จะเริ่มจัดเก็บในวันที่ 15 ธ.ค. 2562 ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าปัจจัยกระตุ้นตลาด (catalyst) ที่สำคัญในเดือน ก.ย. ที่น่าจะหนุนให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวต่อ คือ i) การกำหนดวันเจรจาการค้าที่ชัดเจน ในระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ และ ii) การประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ธ.กลางหลักๆ ทั้งเฟดและอีซีบี โดยเฟดจะประชุมในวันที่ 17-18 ก.ย. ส่วนอีซีบีประชุมในวันที่ 12 ก.ย. 
 
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
 
เก็งกำไร MBK*, IRPC*, BCPG*
 
MBK* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 23.1 บาท / แนวต้าน 23.5 - 24.2 บาท (Stop loss 22.7 บาท) 2) ประเมิน Valuation Laggard ทั้งกลุ่มค้าปลีก และ เช่าซื้อ โดย PE และ PBV ต่ำเพียง 11.4 เท่า และ 1.64 เท่า 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H62 จะเติบโต HoH จาก i) การรับรู้รายได้การโอนโครงการอสังหาฯ และ ii) โครงการไอคอนสยามไม่มีต้นทุนคต่าใช้จ่ายเปิดตัวเช่นใน 4Q61
IRPC* (เป้าพื้นฐาน 5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.90 บาท / แนวต้าน 4.0 - 4.2 บาท (Stop loss 3.82 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1H62 ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H62 จะฟื้นตัว i) ตามการฟื้นตัวของค่าการกลั่น ii) คาดได้อานิสงส์จากนโยบาย IMO iii) Spread ของปิโตรเคมี PP เริ่มดีดตัวขึ้นในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา +9% MoM
BCPG* (เป้า Consensus 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.5 บาท / แนวต้านถัดไป 19.1 - 19.7 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 18.2 บาท) 2) แนวโน้มดอกเบี้ยต่ำคาดทำให้หุ้นที่มีโครงสร้างกระแสเงินสดคล้ายพันธบัตรอย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า Outperform ตลาดฯ + โอกาสในการ Re-finance ลดต้นทุนดอกเบี้ย หรือลงทุนโครงการใหม่ด้วยต้นทุนเงินทุนที่ต่ำลง 3) BCPG* มี Valuation ที่ไม่แพง เทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มโดยมี PE ปี 2562 - 63 เท่ากับ ±18.5 เท่าและ ±16 เท่า ตามลำดับ และปันผล ±3.5% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ +2.5% ต่อปี
 
 
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
 
ประเมิน SET index รีบาวด์ แต่มีผันผวนระหว่างทาง เราประเมิน Valuation ตลาดหุ้นไทยเริ่มผ่อนคลายลงเทียบเดือนก่อนจากฝั่ง Discount rate ที่ลดลง (Bond yield ลงแรงในเดือนที่ผ่านมา) แม้ว่า EPS ปี 2562 จะถูกปรับลง -2.9% (Bloomberg consensus) ทำให้ Earnings yield gap = 4.7% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 4.5% เล็กน้อย และ Shiller's PE = 18.55 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 18.9 เท่า เล็กน้อย (เฉลี่ย 60 เดือน) จึงประเมินว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะเริ่มฟื้นตัวในเดือน ก.ย. ได้ แต่ระมัดระวังประเด็น Trade war ที่อาจทำให้ Risk premium มีความผันผวนระหว่างเดือนได้เช่นกัน ประเมินแนวรับ 1635 จุด แนวต้าน 1667 จุด และ 1700 จุด หุ้นเด่น เลือก IRPC* (Stop loss 3.8 บาท), MBK* (Stop loss 22 บาท), GGC* (Stop loss 10.2 บาท)
กลยุทธ์ Pair trade i) แนะนำ Long STEC* + Short CK* (กำไร +0.8%) และ ii) แนะนำ Long MTC* / Short SAWAD* (กำไร +1.5%) ... แนะนำตัดขาดทุน หากผลตอบแทนรวมของกลยุทธ์ขาดทุนเกิน -5%
 
 
หุ้นมีข่าว
 
(-)“กลุ่มงานทวี” ฟ้อง RATCH เรียกค่าเสียหาย  6,457 ลบ. ฐานละเมิดความลับการค้า (ข่าวหุ้น)  ราชกรุ๊ป(RATCH.BK/RATCH TB)* ได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยบริษัทไทยลาวลิกไนท์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง และมีทุนทรัพย์ตามคำฟ้องเป็นจำนวนเงิน 6,457 ลบ. ในโครงการโรงไฟฟ้าหงสา
 
ความเห็น : RATCH ถือหุ้น 40% ในโครงการโรงไฟฟ้าหงสา โดยบริษัทมั่นใจว่าจะชนะคดีในครั้งนี้ ในอดีตบริษัทไทยลาวลิกไนท์ ได้ฟ้อง BANPU (BANPU.BK/BANPU TB)* และชนะคดี โดย BANPUจ่ายค่าเสียหายทั้งสิ้น 2.7พัน ลบ.  เราประเมิน downside ที่อาจจะเกิดขึ้นจากมูลค่าที่เรียกร้องความเสียหายที่ 4.5 บาทต่อหุ้น เราจะติดตามและอัพเดทในประเด็นนี้ ยังคงคำแนะนำถือ ด้วยราคาเป้าหมายกลางปี 2563 ที่ 76.5 บาท(+) BAFS ชิงงานบริการน้ำมันอู่ตะเภา จ่อลุยขยายท่อขนส่งน้ำมันไปพม่า (ข่าวหุ้น) “BAFS” เตรียมเข้าประมูลงานบริการจัดเก็บและเติมน้ำมันในสนามบินอู่ตะเภา มั่นใจคว้าชัยชนะยันประสบการณ์สูง พร้อมเดินหน้าลงทุนขยายท่อขนส่งน้ำมันจากพิจิตรไปเมียนมา สอดรับนโยบายรัฐหนุนไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน
 
(+ กลุ่มค้าปลีก) คลังแทงกั๊กต่ออายุแวต 7% (ไทยโพสต์) อุตตมอ้างขอปรับเข้าสภาพศก. "คลัง" จ่อชง ครม. ขยายเวลามาตรการลดภาษีแวต 7% ต่อ แทงกั๊กขยายเพิ่มให้อีก 1 ปี หรือ 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
 
(+) MTC*-KTC*-SAWAD* รับเต็มงดใช้ DSR-ดอกเบี้ยขาลง (ทันหุ้น) MTC*-KTC*-SAWAD* รับอานิสงส์สองเด้ง ทั้งธปท.ยังไม่ใช้มาตรการ DSR และภาวะดอกเบี้ยขาลง หนุนกลุ่มไฟแนนซ์ นักวิเคราะห์ชี้ช่วยปลดล็อกช่วงไฮซีซันของธุรกิจสินเชื่อ คาดผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังสดใส แนวโน้มกำไรนิวไฮ สร้างอัพไซด์
 
(+) MEGA* เดินหน้าดีลพันธมิตร รุกขยายฐานโรงงานในอินโด (ทันหุ้น) MEGA* ซุ่มดีลพาร์ตเนอร์อินโดนีเซียตั้งโรงงานอัพฐานโกยเงิน คาดชัดเจนใน Q4/2562 บิ๊ก "วิเวก ดาวัน" แย้มครึ่งหลังปี 2562 ฟอร์มแจ่ม เข้าช่วงไฮซีซัน แถมลุยออกสินค้าใหม่เพิ่ม 4-5 โปรดักต์หวังกระตุ้นยอดขาย พร้อมประเมินเทรดวอร์ไม่กระทบธุรกิจ เหตุเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับผู้ใช้
 
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
 
WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9.4 บาท) แนะนำ Let profit run โดยกำหนด Trailign stop ล๊อกกำไร 6.85 บาท
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) ประเมินแนวรับ 8.7 บาท / แนวต้าน 9.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailign stop ล๊อกกำไร 8.6 บาท)
TCAP* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) ประเมินแนวรับ 55 บาท / แนวต้าน 57.5 บาท หากผ่านได้แนะนำ "Let profit run" (Trailing stop ล๊อกกำไร 54 บาท)
ALL (ยังไม่มีเป้าหมายใน Consensus) ประเมินแนวรับ 4.14 บาท / แนวต้าน 4.30 - 4.40 บาท (Stop loss 4.04 บาท)
TFG (เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท) ประเมินแนวรับ 4.8 บาท / แนวต้าน 5.0 - 5.2 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 4.8 บาท)
ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 255 บาท) ประเมินแนวรับ 228 บาท / แนวต้าน 236 บาท (Stop loss 220 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 19.6 บาท) ประเมินแนวรับ 15 บาท / แนวต้าน 15.6 - 16.0 บาท (Stop loss 14.9 บาท)
SAMTEL (เป้าพื้นฐาน 14.3 บาท) ประเมินแนวรับ 10.4 บาท / แนวต้าน 11.2 บาท (Trailign stop ล๊อกกำไร 10 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
 
กลยุทธ์การลงทุนเดือน ก.ย. 2562 หลังจากที่ฝ่ายวิจัยฯให้มุมมองระมัดระวังต่อ SET ในเดือนที่แล้ว เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อหุ้นไทยเดือน ก.ย. เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเช่น i) ท่าทีที่อ่อนลงของสหรัฐฯ และจีนซึ่งเพิ่มโอกาสในการกลับมาเจรจาการค้า และ ii) แนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมจากทั้ง Fed และ ECB น่าจะช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยและหนุนสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวม อย่างไรก็ดี การปรับลดประมาณการ EPS ของหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาทำให้ SET Index กลับมาแพงขึ้นอย่างเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการฟื้นตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อผนวกทุกปัจจัยแล้ว ฝ่ายวิจัยฯ จึงมองเป้าดัชนีฯ เดือนนี้เพียง 1,680 จุด และแนะนำพอร์ตหุ้นให้มีส่วนผสมของทั้งหุ้น cyclical และdefensive โดยหุ้นเด่นเดือน ก.ย. ได้แก่ IRPC*, PTTEP*, TOP*, KCE*, MINT*, BGRIM* และ WHAUP
 
Strategic SET daily 
 
Market strategy      Thailand
 
จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- นัยรับ 1649 จุด
 
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1649 จุดนั้น อาจคงแรงทรงราคาขึ้นในกรอบ 1649-1671 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1649 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1649-1637 จุด
 
แนวรับวันนี้:          1649/1639                                           แนวต้านวันนี้:          1661/1670
 
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
 
1 อดิศักดิ์ คำมูล
 
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
 
3 This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
 
 
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!