หมวดหมู่: หุ้นเด่นวันนี้
logo ace
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET Index Sideway ในกรอบ หลังนายทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นต่อการเจรจากับจีนช่วงต้นเดือนหน้าจะมีความชัดเจนขึ้น หนุนให้เกิด Sentiment บวกใน ตปท. อย่างไรก็ดี จะถูกลดทอนด้วยปัจจัยในประเทศหลัง กนง.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%ต่อปี พร้อมปรับลดคาดการณ์ GDP ลง  ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่1,620-1,635 จุด
•    Market Factor
•    (+) การเจรจาการค้าได้รับ Sentiment  เชิงบวกหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯ สามารถตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาด อย่างไรก็ดีจับตาการเจรจาการค้าอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ต.ค.
•    (-) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับลง 1.4%DoD และ 1.1%DoD ตามลำดับ หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น 2.412 ล้านบาร์เรลสวนทางกับตลาดที่คาด -0.249 ล้านบาร์เรล
•    (-) กนง. มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัว 2.8% (จากเดิมคาด 3.3%) และคาดมูลค่าส่งออกปีนี้ติดลบ 1% จากผลกระทบการค้าโลกที่ชะลอตัว (เดลินิวส์)  
•    (-) กรมการค้าต่างประเทศ เผยการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วง ม.ค.-ส.ค.62 โตชะลอตัว จากผลกระทบปัญหาของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยืดเยื้อ โดยช่วง 8 เดือนแรก มีมูลค่ารวม 915,517.39 ลบ. ขยายตัว 0.07% YoY  โดยที่ส่วนการส่งออกมีมูลค่า  509,045.79 ลบ. ลดลง 1.65%YoY การ (อินโฟเควสท์)
•    Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.02 บาท หรือลดลง 14.0%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 176.19 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 9,055.01 ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 7,094.36 ลบ.)
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index ซึมลงต่อในกรอบ 1,610-1,640 จุด หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่จากต่างประเทศ และนักลงทุนกำลังติดตามการเจรจา Trade war สหรัฐฯ-จีนในช่วงต้นเดือนต.ค. ขณะที่มุมมองในประเทศยังคงขาดปัจจัยบวกหลังธปท.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และปรับลด GDP ของไทยลง ดังนั้นในช่วงที่ตลาดย่อตัว เราแนะนำให้นักลงทุนทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่มดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง  2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่นลบ.), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนส.ค. โต 15.6%YoY)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoYและช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ), ARROW (ช่วง 2H62 คาดกำไรฟื้นตัวหลังมาร์จิ้นเหล็กดีขึ้นตามต้นทุนเหล็กที่ลดลงและราคาขายที่ดี คาดหนุนกำไรทั้งปีโต 10.3%YoY บวกกับมี Backlog 1.1 พัน ลบ. และมีโอกาสได้งานใหม่ๆเพิ่ม)
•    หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก DOHOME, GLOBAL, DCC
    25-Sep-19    Change (pts.)    24-Sep-19
SET Index    1,628.38    -2.12    1,630.50
SET50 Index    1,081.53    -3.03    1,084.56
SET100 Index    2,382.80    -4.78    2,387.58
 
High    1,630.56    Gainers    575
Low    1,621.63    Unchanged    573
Value (Bt m)    44,862.50    Losers    828
Volume (*000)    16,288,153         
Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    16.4    14.8    14.8
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -1.0
EV/EBITDA (x)    11.9    10.9    10.4
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.1    3.4    3.6
ROE    10.6    10.9    11.0
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    25-Sep-19    WTD    MTD    YTD
Institution    200.21    (294.93)    (6,195.76)    26,222.88
Proprietary    (829.43)    (1,914.57)    1,960.65    9,369.28
Foreign     (176.19)    (2,701.73)    (9,055.02)    (2,626.07)
Individual    805.41    4,911.23    13,290.13    (32,966.09)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!