ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ลุยเฟ้นหาสินค้า GI ใหม่ เสริมแกร่ง SME ด้วยไอพี-นวัตกรรม

หมวดหมู่: พาณิชย์
วันที่สร้าง วันเสาร์, 04 ตุลาคม 2568 22:16
ฮิต: 185

ลุยเฟ้นหาสินค้า Gกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลุยเฟ้นหาสินค้า GI ใหม่ เสริมแกร่ง SME ด้วยไอพี-นวัตกรรม

     กรมทรัพย์สินทางปัญญารับลูก “ศุภจี” เดินหน้าเฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น ผลักดันขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ พร้อมเร่งรัดว่าที่สินค้า GI ให้ขึ้นทะเบียนได้โดยเร็ว และจับมือทูตพาณิชย์ขยายตลาดสู่สากล เผยยังจะนำทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม ช่วยเสริมแกร่งการทำธุรกิจให้กับ SME ด้วย

    นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้รับนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยจะร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด เดินหน้าเฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น เพื่อผลักดันขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ๆ

    และเร่งรัดการขึ้นทะเบียนว่าที่สินค้า GI จำนวน 5 รายการ ได้แก่ ทุเรียนชุมพร กกเหล่าพัฒนา (นครพนม) ไก่เบตงยะลา ผ้าทอนาหมื่นศรี (ตรัง) และมะยงชิดแม่ย่าสุโขทัย พร้อมประสานความร่วมมือกับทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ ร่วมวิเคราะห์ตลาดเป้าหมาย เพื่อร่วมกันส่งเสริมการขยายตลาดสินค้า GI ไทยสู่สากล

     “รัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ผลักดันเพิ่มจำนวนสินค้า GI ไทยให้มีมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้า GI ซึ่งถือเป็นของดีประจำถิ่น โดยที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น GI สามารถเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าสินค้าทั่วไปถึง 2-5 เท่า อาทิ ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง จาก จ.นครศรีธรรมราช ราคาขายก่อนเป็น GI อยู่ที่ลูกละ 100–200 บาท แต่เมื่อได้เป็น GI แล้ว ราคาขายอยู่ที่ลูกละ 300–500 บาท”นางอรมนกล่าว

     ปัจจุบัน มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จำนวน 239 สินค้า ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในปี 2568 กว่า 82,000 ล้านบาท

     นางอรมน กล่าวว่า กรมยังจะเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SME ที่สภาพแวดล้อมในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีปัจจัยกระทบรอบด้าน ทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยในการตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ได้

    โดยกรมจะดำเนินกิจกรรมเชิงรุกเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการนำนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์ และตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ SME ต่อไป

    “กรมจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติทันที โดยจัดทำแผนงานที่ตอบโจทย์นโยบายเร่งด่วน ทั้งด้านการส่งเสริมการพัฒนา GI การจับคู่นวัตกรรมที่เหมาะสมให้ผู้ประกอบการ และการบ่มเพาะผู้ประกอบการ SME ให้เข้มแข็ง ผ่านการใช้ประโยชน์จากระบบทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และเสริมความสามารถการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน”นางอรมนกล่าว

GI ใหม่

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขานรับนโยบาย รมว.พาณิชย์ เดินหน้าเร่งผลักดันการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า GI รุกเสริมแกร่ง SME ด้วยทรัพย์สินทางปัญญาอย่างยั่งยืน

     อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญารับมอบนโยบายเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ในการแถลงนโยบาย Quick Big Win จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยประเด็นขับเคลื่อนสำคัญที่จะต้องเร่งเดินหน้าทำทันที คือการเสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย ผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าท้องถิ่นและใช้ GI เป็นทางรอดให้กับ SMEs พร้อมยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้มแข็ง แข่งขันได้ ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา

      นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบนโยบายให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs โดยการเพิ่มรายได้ผ่านสินค้า GI ซึ่งถือเป็นของดีประจำถิ่น และที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น GI สามารถเพิ่มมูลค่า ได้มากกว่าสินค้าทั่วไปถึง 2-5 เท่า อาทิเช่น ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง จากจังหวัดนครศรีธรรมราช ราคาขายก่อนเป็น GI อาจอยู่ที่ลูกละ 100 – 200 บาท แต่เมื่อได้เป็น GI ราคาขายอยู่ที่ลูกละ 300 – 500 บาท

    ซึ่งแนวทางที่กรมฯ จะเร่งดำเนินการ คือการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่นและ SMEs ผ่านกลไกการส่งเสริมสินค้า GI ไทย ที่ปัจจุบันมีจำนวน 239 สินค้า ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในปี 2568 กว่า 82,000 ล้านบาท และเพื่อต่อยอดให้เห็นผล Quick Win อย่างเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือน กรมฯ จะเร่งต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ทั้งการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า

    การพัฒนาภาพลักษณ์สินค้าสู่ระดับพรีเมียม และการขยายช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ในสินค้าใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงว่าที่ GI 5 รายการ ได้แก่ ทุเรียนชุมพร กกเหล่าพัฒนา (นครพนม) ไก่เบตงยะลา ผ้าทอนาหมื่นศรี (ตรัง) และมะยงชิดแม่ย่าสุโขทัย โดยจะร่วมมือกับพาณิชย์จังหวัด ร่วมเฟ้นหาสินค้าคุณภาพที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นให้เข้าสู่ระบบการคุ้มครอง GI พร้อมประสานความร่วมมือสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ร่วมวิเคราะห์ตลาดเป้าหมาย เพื่อร่วมกันส่งเสริมการขยายตลาดสินค้า GI ไทยสู่สากลด้วย

     นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs ที่สภาพแวดล้อมในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงต้องคำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน อาทิ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรมจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยในการตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ได้

    ซึ่งกรมฯ จะดำเนินกิจกรรมเชิงรุกเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา ส่งเสริมการนำนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์ และตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ๆ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งผลักดันให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าและสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ SMEs ท่ามกลางภาวะการแข่งขันทางการค้าที่เข้มข้นในปัจจุบัน

    นางอรมน กล่าวยืนยันว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติทันที โดยจัดทำแผนงานที่ตอบโจทย์นโยบายเร่งด่วน ทั้งด้านการส่งเสริมการพัฒนา GI การจับคู่นวัตกรรมที่เหมาะสมให้ผู้ประกอบการ และการบ่มเพาะผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้มแข็ง ผ่านการใช้ประโยชน์จากระบบทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และเสริมความสามารถการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน

 

Click Donate Support Web 

MTI 720x100NHA Baner

PTG 720x100Banner GPF720x100 PXTOA 720x100EXIM One 720x90 C JMTL 720x100SME720x100 2024CKPower 720x100

QIC 720x100วิริยะ 720x100aia 720 x100BKI 720 x 100ธกส 720x100ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

กรมบัญชีกลาง